เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อสั้น ๆ ว่า AI (Artificial Intelligence) คือ เทคโนโลยีที่พัฒนาเครื่องจักรให้มีความสามารถทางด้านสติปัญญาและมีความฉลาดเทียบเท่ากับมนุษย์ โดยหลักการสำคัญที่ใช้ในการพัฒนา AI คือ การให้เครื่องจักรเรียนรู้ข้อมูลในด้านต่าง ๆ ที่เรียกว่า Machine Learning (ML) ให้มากที่สุดเท่าที่จะมีฐานข้อมูลสนับสนุนได้ โดยสอนให้เข้าใจความเชื่อมโยงของข้อมูล ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลที่มีการนำเข้า (Input) นำไปสู่การคิดวิเคราะห์เพื่อตอบโต้ข้อมูลกับผู้ใช้งาน (Output) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัท Google ก็ได้มีการพัฒนา AI Chatbot ขึ้นมาเป็นของตัวเองชื่อว่า Google Bard สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก AI Chatbot ตัวนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักกันว่า Google Bard คืออะไร

ทำความรู้จัก Google Bard คืออะไร มีลักษณะการทำงานอย่างไร

Google Bard คือ โปรแกรม AI Chatbot ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท Google โดยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 โดยพัฒนามาจากการทำงานของโมเดล LaMDA (Laungage Model for Dialouge Applications) ซึ่งเป็นโมเดลภาษาที่มีขนาดใหญ่ มีขนาดข้อมูลสูงถึง 137,000 ล้านพารามิเตอร์ ทำให้ Bard สามารถเรียนรู้และเข้าใจรูปแบบภาษา และสามารถสร้างข้อความตอบโต้ได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งหลักจากการเปิดตัวครั้งแรก Bard ก็ได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสามารถรองรับและตอบโต้กับมนุษย์ได้ถึง 40 ภาษาทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่าภาษาไทยก็คือหนึ่งในนั้นด้วย

Google Bard คือตัวช่วยสำคัญของมนุษย์ มาพร้อมความสามารถหลากหลาย

ด้วยความสามารถที่หลากหลาย ทำให้ Google Bard คือตัวช่วยที่สำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยความสามารถของ Bard ประกอบด้วย
1. ทำความเข้าใจ และสามารถสร้างข้อความเพื่อตอบคำถามของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมเนื้อหาที่จำเป็นและสำคัญ โดย Bard จะนำเอาฐานข้อมูลทั้งหมดที่มีมาร่วมประมวลผลเพื่อตอบคำถามผู้ใช้งานให้ได้คำตอบที่สมบูรณ์มากที่สุด
2. ความสามารถในการแปลภาษา อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ปัจจุบัน Bard นั้นสามารถเข้าใจและตอบโต้กับมนุษย์ได้ถึง 40 ภาษาทั่วโลก ดังนั้น Bard จึงมีความสามารถในการแปลภาษาจาก 1 ภาษาไปเป็นอีกหลาย ๆ ภาษาได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ยกตัวอย่างเช่น หากขอให้ Bard แปลคำว่า “ฉันรักเธอ” เป็นภาษาต่างประเทศ 10 ภาษา Bard ก็สามารถตอบได้ในทันทีว่า “ฉันรักเธอ” ในอีก 10 ภาษาต่างประเทศนั้นมีอะไรบ้าง
3. ความสามารถในการแต่งบทกวี หากต้องการให้ Bard ช่วยแต่งกลอน หรือบทกวีต่าง ๆ หรืองานเขียนประเภทอื่น ๆ เช่น โค้ดโปรแกรมคอมพิวเตอร์ อีเมล จดหมาย สคริปต์การพูดในงานเลี้ยงต้อนรับ ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยข้อความที่ได้นั้นผู้ใช้งานอาจจะต้องนำมาเกลาให้มีความสละสลวยเพิ่มขึ้น แต่ก็นับว่าเป็นประโยชน์และเป็นไอเดียเริ่มต้นให้กับคนทำงานได้มากเลยทีเดียว
4. Google Bard สามารถใช้เป็นแหล่งข้อมูลมหาศาลที่เชื่อถือได้ เนื่องจาก Google มีฐานข้อมูลอยู่ในมือมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจ หาก Google Bard คือคลังความรู้ในด้านต่าง ๆ เช่นเดียวกัน ทั้งประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และด้านอื่น ๆ ให้ได้สืบค้น และถามตอบกันอย่างกว้างขวางในหลาย ๆ แง่มุม
5. ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์รูปภาพจาก Google Bard ได้ เพียงแค่เขียนคำบรรยายภาพตามที่ต้องการ หรือแม้แต่ขอให้แต่งเนื้อเพลงที่เกี่ยวข้อง Bard ก็สามารถทำได้อย่างสละสลวย นับเป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์กับคนทำงานสร้างสรรค์เป็นอย่างยิ่ง
6. Google Bard คือผู้ช่วยสำคัญ ที่ทำให้การทำงานบน Google Workspace เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถแชร์เนื้อหาไปยัง Google Platform อื่น ๆ เช่น Google Docs, Gmail, Google Drive, Google Slide, Google Sheet เป็นต้น เรียกได้ว่าสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ที่ใช้งาน Google อยู่เป็นประจำได้ค่อนข้างมาก

อย่างไรก็ตามเมื่อเราทราบกันดีแล้วว่า Google Bard คืออะไร สิ่งสำคัญที่เราควรตระหนักรู้ก็คือ แม้ว่า Google Bard จะเป็น AI Chatbot ที่มีประสิทธิภาพมากเพียงใด แต่ทุกครั้งที่มีการใช้งาน จะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลที่โต้ตอบมาทุกครั้งว่าได้มีการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือจริยธรรมผู้อื่นหรือไม่ เช่น การคัดลอกข้อมูล การนำภาพผู้อื่นมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น อีกทั้งด้วยฐานข้อมูลที่มีมากมายบน Google ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับจาก Bard ทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จสู่สาธารณชนนั่นเอง หากมีความระมัดระวังการใช้งานเจ้า Google Bard เป็นอย่างดีแล้ว เชื่อแน่นอนว่าเจ้า AI Chatbot ตัวนี้จะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้งานได้อย่างมหาศาล